ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา จังหวัดสุรินทร์มีหนึ่งในงานประเพณีที่งดงามและมีเอกลักษณ์ที่สุดในประเทศไทย นั่นคือ ประเพณีแห่เทียนพรรษาและพิธีตักบาตรบนหลังช้าง ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงวันเข้าพรรษา ถือเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมชาวสุรินทร์ ความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างลงตัว
ความสำคัญทางวัฒนธรรม
แสดงให้เห็นถึง ศรัทธาอันลึกซึ้ง ของชาวสุรินทร์ที่มีต่อพระพุทธศาสนา เป็น การอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวกูย ที่ใช้ช้างเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมอย่างสง่างาม ส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชน
ความหมายและที่มา
ประเพณีนี้มีรากฐานมาจากสองส่วนสำคัญ
ประเพณีแห่เทียนพรรษา
ซึ่งเป็นการถวายเทียนแก่พระภิกษุสงฆ์เพื่อใช้จุดในช่วงเข้าพรรษา เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดมายาวนานในพุทธศาสนา
การตักบาตรบนหลังช้าง
เป็นเอกลักษณ์ของชาวกูย หรือกวย ในสุรินทร์ ซึ่งมีความผูกพันกับช้างในทุกวิถีชีวิต แม้แต่ในการทำบุญก็ยังใช้ช้างเป็นพาหนะอันศักดิ์สิทธิ์
ไฮไลต์กิจกรรมสำคัญ
ขบวนแห่เทียนและขบวนช้าง
ริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 9 กรกฎาคม ของทุกปี การจัดขบวนแห่เทียนประดับตกแต่งอย่างวิจิตรจากชุมชน 12 คุ้มวัด ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งจะประสานกับขบวนช้างจำนวนมากเดินร่วมขบวนในยามค่ำ
ตักบาตรบนหลังช้าง
ในเช้าวันรุ่งขึ้น พระสงฆ์และสามเณรจำนวนหลายสิบรูปจะขึ้นไปนั่งบนหลังช้าง (จำนวนเชือกประมาณ 3770 เชือก) โดยมีพุทธศาสนิกชนยืนรอบ ๆ ใส่บาตรข้าวสารและอาหารแห้งผ่านมือพระสงฆ์บนหลังช้าง ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจทั้งแก่ชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผสานความศรัทธาและความเป็นมงคลอย่างลึกซึ้ง
ความพิเศษที่หาไม่ได้ที่ไหน
เพียงหนึ่งเดียวในโลก หนึ่งเดียวที่มีพิธีตักบาตรบนหลังช้างจริง ๆ ในโลก ซึ่งสะท้อนถึงความผูกพันระหว่างช้างกับศรัทธาทางศาสนาในไทย โดยเฉพาะในจังหวัดสุรินทร์ที่มีชาวกูยผู้เลี้ยงช้างสืบทอดมาอย่างยาวนาน
กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นพิธีทางศาสนา แต่ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ เมืองช้าง และสำคัญอย่างยิ่งในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของประเทศไทย
งานแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์ ไม่เพียงเป็นประเพณีที่งดงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อ ความศรัทธา และความภาคภูมิใจของชาวสุรินทร์ที่พร้อมแบ่งปันให้ทุกคนได้สัมผัส หากมีโอกาสในช่วงเข้าพรรษา อย่าพลาดที่จะเดินทางมาเยือนและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ศรัทธาอันทรงคุณค่านี้